วันนี้ (15 สิงหาคม 2565) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก “พายุมู่หลาน” จึงได้สั่งการให้ตนพร้อมด้วยนายไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต รองอธิบดีกรมทางหลวงฝ่ายบริหาร ลงพื้นที่ตรวจเส้นทางหลวงที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่สำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่)

โดยในช่วงเช้าได้ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงคมนาคมและนโยบายกรมทางหลวงพร้อมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 มอบแนวทางวางแผนการดำเนินงานงบประมาณปี 2566 และเตรียมพร้อมเสนอขอตั้งงบประมาณปี 2567 รวมทั้งได้มอบแนวทางความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง การวางแผนการทำงาน และการเบิกจ่ายงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ พร้อมติดตามความก้าวหน้าผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างที่สำคัญ อาทิ โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทอง โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟสายทางเลี่ยงเมืองลำปาง โครงการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน และ จ.แม่ฮ่องสอน โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม/ดินสไลด์ในเส้นทางผ่านภูเขาในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.เชียงใหม่ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวงหมายเลข 121 วงแหวนรอบเมืองเชียงใหม่รอบ 3 และการแก้ไขปัญหาเส้นทางชำรุดเสียหาย อาทิเช่น ทางหลวงหมายเลข 1322 ในพื้นที่แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3 เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้แนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในกรณีต่าง ๆ อาทิเช่น การทำงานในพื้นที่เสี่ยงกับดินสไลด์ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำกัดเซาะคอสะพาน เป็นต้น โดยมีนายวิจารย์ ขุนเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) พร้อมด้วยผู้อำนวยการแขวงทางหลวงและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดทั้ง 7 แขวงทางหลวง และนายช่างโครงการก่อสร้างสังกัดสำนักก่อสร้างทางที่ 1 เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกันได้ลงพื้นที่พร้อมคณะผู้บริหารเพื่อตรวจเส้นทางในทางหลวงหมายเลข 107 และทางหลวงหมายเลข 1178 โดยผ่านพื้นที่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง และเดินทางเข้าสู่ อ.เชียงดาว เพื่อติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเส้นทางและให้ข้อแนะนำแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิพล “พายุมู่หลาน” รวมทั้งการแก้ไขปัญหาจากกรณีน้ำกัดเซาะคอสะพานที่สะพานห้วยแม่เกี๋ยงที่ กม.109+900 ในทางหลวงหมายเลข 1322 ตอน แม่จา – รินหลวง ในพื้นที่ อ.เวียงแหง และ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และก่อนเดินทางกลับได้มอบของตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงในสังกัดแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 3 ทั้ง 6 หมวดทางหลวง ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานในพื้นที่อุทกภัยดังกล่าว และได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2565 พบทางหลวงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม/ดินสไลด์ รวมจำนวน 13 แห่ง 6 สายทาง ได้แก่ ทล.107 ทล.108 ทล.1150 ทล.1249 ทล.1314 และ ทล.1322

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร สะพานเบลีย์ และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝนจึงกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กรณีน้ำท่วมสูงได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง ไฟกะพริบ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีถนนหรือสะพานขาด/ชำรุด ให้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์เชื่อมทาง และกรณีดินไหล่เขาข้างทาง Slide ให้นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการเกลี่ยดินออกเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ และได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกรณีเกิดภัยพิบัติให้ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ กรณีมีการร้องขอจากหน่วยงานอื่น ๆ หรือประชาชน

กรมทางหลวงขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1

-----------------------------------

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

Website : www.doh.go.th

Facebook : @departmentofhighway

Twitter : @prdoh1

------------------------------------

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

สำนักงานเลขานุการกรม กรมทางหลวง

วันที่ 15 สิงหาคม 2565